หากถามถึงความจำเป็นว่า เราควรมีกองทุนตราสารหนี้อยู่ในพอร์ตหรือไม่ คำตอบคือ “จำเป็น” เพราะความสำเร็จในการลงทุนจะต้องขึ้นอยู่กับความสมดุลของสินทรัพย์ที่เลือก โดยกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้จะช่วยสร้างความสมดุลในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเกิดความผันผวนรุนแรง เพราะมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้น ซึ่งเราจะได้ทราบกันในวันนี้ว่า กองทุนประเภทนี้ช่วยให้พอร์ตมีประสิทธิภาพได้อย่างไร
กองทุนตราสารหนี้ องค์ประกอบสำคัญที่ใช้รับมือกับภาวะเศรษฐกิจ
กองทุนตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจในการช่วยสร้างผลตอบแทนที่นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะมีติดพอร์ต หรือแม้แต่นักลงทุนมือใหม่ก็ยังเลือกเริ่มต้นลงทุนกับกองทุนประเภทนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ให้ตอบแทนได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร อีกทั้งยังเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่ากองทุนรวมหุ้น จึงช่วยลดความเสี่ยงในภาพรวมของพอร์ตได้ดี ในยามที่ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน จึงถือว่ากองทุนประเภทนี้ควรมีติดพอร์ตเอาไว้ สำหรับเป็นเครื่องมือช่วยพยุงพอร์ตในหลากหลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เพราะความสำเร็จจากการลงทุนเกิดจากหลายปัจจัย การสร้างพอร์ตก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญ เพราะนอกจากนักลงทุนจะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาและความเสี่ยงที่เหมาะสมแล้ว การสร้างพอร์ตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา ส่งผลต่อสินทรัพย์ที่ลงทุนแตกต่างกัน ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ผลัดเปลี่ยนกันไป
ดังนั้นพอร์ตที่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดี และควบคุมความเสี่ยงไม่ให้อยู่ในจุดที่ยากจะยอมรับ และจุดเด่นสำคัญของกองทุนตราสารหนี้ ที่นักลงทุนเลือกเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยรับมือกับภาวะเศรษฐกิจ คือ
- มีระยะเวลาให้เลือกลงทุน ตั้งแต่ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
- ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง นักลงทุนจะได้รับประโยชน์จากกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ เพราะเมื่อถึงจุดที่อัตราดอกเบี้ยชะลอตัว และเริ่มปรับตัวสู่ขาลง ส่วนต่างจากอัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ กับอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกจะสร้างให้เกิดผลตอบแทน
วิธีเลือกกองทุนตราสารหนี้ให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ย
การเลือกกองทุนตราสารหนี้ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ จะช่วยสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนได้ เพราะระยะเวลาตั้งแต่ระยะสั้นไปจนถึงระยะยาวของกองทุน จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากหากนักลงทุนมีความเข้าใจและเลือกลงทุนให้ได้อย่างถูกจังหวะ และเรามีเทคนิคสำหรับการเลือกกองทุนมาฝาก
- ศึกษากองทุนที่มีความสนใจให้ละเอียด
ก่อนที่จะเริ่มต้นพิจารณาอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจะต้องทราบว่า ตัวเองชอบกองทุนตราสารหนี้ประเภทไหน ระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว เพราะระยะเวลาที่แตกต่างกันของตราสารหนี้จะมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันด้วย โดยนักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนทั้งหมดได้จากหนังสือชี้ชวนของกองทุนนั้น ๆ
- ต้องรู้จักความเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยในตลาดกับราคาของตราสารหนี้ มักจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ตรงกันข้าม โดยนักลงทุนจะสังเกตได้ว่า หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ราคาของตราสารหนี้จะปรับตัวลดลง แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดเริ่มทรงตัวและเริ่มปรับตัวสู่ขาลง ราคาตราสารหนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการความแม่นยำในการเข้าซื้อกองทุนตราสารหนี้ ควรมีพื้นฐานการติดตามข่าวสารเรื่องอัตราดอกเบี้ยอยู่เป็นประจำ เพื่อมองหาแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยในตลาดว่า จะผันผวนไปสู่ทิศทางใด
- ปรับปรุงพอร์ตแบบค่อยเป็นค่อยไป
การลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีได้ เพราะความเคลื่อนไหวในทิศทางที่สวนกันของอัตราดอกเบี้ย เป็นหลักการพื้นฐานที่เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการให้พอร์ตมีประสิทธิภาพ สร้างผลตอบแทน และกระจายความเสี่ยง การปรับปรุงพอร์ตจึงไม่ควรรีบร้อนเกินไป
นักลงทุนสามารถเลือกสะสมกองทุนแบบค่อยเป็นค่อยไปได้ อย่างการพิจารณากองทุนระยะยาว เป็นไปเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ย ที่เริ่มทยอยปรับตัวลดลง ส่วนกองทุนระยะสั้นจะเป็นการลงทุนในช่วงเวลาที่มีตราสารหนี้ออกมาใหม่ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในระดับสูง และนักลงทุนก็จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงด้วย โดยการพิจารณาว่ากองทุนนั้น ๆ มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น หรือระยะยาว ให้ศึกษาจากหนังสือชี้ชวนของกองทุน
กองทุนตราสารหนี้มีความจำเป็นที่ควรมีติดพอร์ต เพื่อประสิทธิภาพในการลงทุน ช่วยกระจายความเสี่ยง และช่วยสร้างผลตอบแทน โดยนักลงทุนสามารถทยอยสะสมกองทุนได้ เพราะประเด็นสำคัญที่นักลงทุนห้ามลืมก็คือ ถึงแม้ว่านักลงทุนจะทราบถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างดี แต่แนวโน้มก็ยังไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นอย่าเร่งรีบในการปรับพอร์ต ให้ติดตามสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ และค่อย ๆ ปรับปรุงพอร์ตอย่างค่อยเป็นค่อยไป จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า